Wednesday, September 5, 2012

เที่ยวเมืองนอกในเมืองไทย แล้วสักวันเราคงมีเมืองไทยในเมืองนอกบ้าง

นี้ขนาดยังไม่เปิด AEC แต่ไทยเราก็ ได้รับอิทธิพล ในการพัฒนาแหล่งท่องเทียว จากต่างประเทศด้วยกันหลายแห่ง มองดูแค่หัวหิน เราก็สามารถเที่ยวได้ถึง 3ประเทศ กรีซ สวีสเซอแลนด์ อิตาลี ไม่ต้องไปไกลคนไทยก็ได้เที่ยวต่างประเทศกัน


1. ซานโตรินีพาร์ค สถานที่ท่องเที่ยวที่จำลองมาจาก เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ
2. สวีสชีพฟาร์ม ชะอำ ...นึกถึงทุ่งหญ้าเขียวขจี ถ่ายรูปสวย ก็ต้องประเทศ สวิสเซอร์แลนด์
3. เวเนเซีย สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ หัวหิน เปิดปลายปี 55 จำลองเมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี มาให้เที่ยวกัน มีเรือกอนโดล่าให้นั่งด้วย

นี้มันสถานที่ท่องเที่ยวหรือว่า เป็นการรุกทางวัฒนธรรมต่างชาติ...ล้อเล่นนะครับ แซวกันขำๆ เห็นแล้วก็อดวิจารณ์ไม่ได้ ก็เมืองไทยสวยๆ ไม่ค่อยมีใครจำลองเอาไปไว้บ้านเมืองเขาบ้าง ถ้าเปิด AEC เมืองไหร่ วัฒนธรรม แบบตลาดน้ำ ที่เราสร้างไว้เป็นแหล่งท่องเที่ยว จะมีนักธุรกิจคนไหน ยกอัมพวา ไปเปิดที่เวียนนาม มาเลเซียบ้างมั๊ยนะ

ไม่แน่นะ เรายังยกเมืองท่องเที่ยวดังๆ มาไว้เมืองไทยกันเป็นที่ฮิตมากๆ ถ้าเรายกตลาดน้ำไปรุกต่างชาติบ้าง จะเป็นยังไงนะ …ตลาดน้ำไทยจะได้ดังขึ้นไปอีก

เก็บไว้เป็นไอเดีย …ถ้ามีเงินนะ...ฮึมๆๆๆ





Tuesday, September 4, 2012

รอยพระบาทในหลวง หนึ่งเดียวในเมืองไทย ที่เชียงราย


รอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มีเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย เกิดขึ้นในสมัยที่เราทำสงครามกับคอมมิวนิสต์ 30ปีที่แล้ว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารหาญ

ในวันที่ 27 ก.พ. พ.ศ.2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จไปเยี่ยมเยียนเหล่าทหารหาญ และราษฎร ณ ฐานปฏิบัติการดอยพญาพิภักดิ์ บนดอยยาว จ.เชียงราย ทรงพระกรุณาพระราชทานประทับ“รอยพระบาท”ของพระองค์ลงบนแผ่นปูนปลาสเตอร์ เพื่อเป็นดังขวัญกำลังใจแก่ทหารหาญ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ

ในปัจจุบันนี้รอยพระบาทบนปูนปลาสเตอร์นั้นได้ถูกนำมาเก็บไว้ที่ศาลารอยพระบาท ณ ค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย

รอยพระบาทในหลวง

ภาพ : ในสมัยปี พ.ศ.2525 

วัดร่องขุ่น วัดขาวแสบตาระยิบร้อนผ่าว เดินผ่านนรกสู่สวรรค์


เพิ่งจะไปวัดร่องขุ่นมา ก็เป้นศิลปะที่มีความหมายแฝงปริศนาธรรมแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะลึกแค่ไหน ในการแปลความ ถ้าต้องคิดเอง โดยภาพที่มองเห็น คงจะแปลความได้มากมายเกิน แต่ถ้ามีป้ายบอกความหมายติดด้วยเดี๋ยวจะไม่งาม ขอลองเดานะ อย่าว่ากัน

เดินเข้าไปถ่ายรูปวัดร่องขุ่น จ. เชียงราย ...เดินไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่วัด คอยดูแล ไม่ใช่ดูแลเรานะ ดูแลวัด ...ไม่ให้พิง ไม่ให้จับ ไม่ยืนนาน หรือไม่ให้ชมก็ไม่รู้ ...แต่ก็นะ ของเค้าทำมาอยากยากลำบากต้องดูแลอย่างดี

เหมือนปริศนาธรรม ...จะเดินเข้าถึงวัด เราจะต้องเดินผ่านนรก ...หรือไม่ก็เราอยู่ในนรก แล้วต้องยากลำบากไปสู่วัด แล้วที่ไม่ค่อยมีต้นไม้เพื่อให้ได้บรรยากาศนรกรอบวัด แล้วมีวัดเปรียบเป็นสวรรค์อยู่ตรงกลาง แสงสีขาวแดดจ้าแสบตา ...ทุกคนลงความเห็นว่าวันไหนแดดร้อน เหมือนนรกจริงๆ พยายามแปลความหมายทางศิลปะ ของวัดร่องขุ่น จ.เชียงราย ...ความหมายจริงๆคือ อะไรนะใครรู้บ้าง

เดินเข้าไปคนดูแลยังบอกเลยว่า ผมนั่งอยู่ใน "นรก" เมื่อถามคำถามไปว่า "ร้อนมั๊ยนั่งตรงนี้ทั้งวัน"

ส่วนภาพนี้ เดินผ่านรกเข้าวัด หรือบอกเป็นนัยเรื่อง ของส่วนบุญล่ะมั้ง ไม่ค่อยมีเวลาคิดนาน เจ้าหน้าทีพูดใส่เครื่องขยายเสียงบอกว่า ให้รีบเดินครับ พร้อมแล้วเดินเลยครับ ...แต่ว่าเรายังไม่พร้อม ...นี้คิดในใจนะ แต่ก็มีเสียงพุดมาเรื่อยๆ อ่ะ ก็ได้ เลยอาจจะมองผิดมองถูกไปบ้าง เพราะเขาแค่ให้เราเดินผ่านเองอ่ะ 

มีคนเดินถือร่มมาถ่ายรูป บนสะพาน
เจ้าหน้าที่พูดว่า หุบร่มด้วยครับ ...ยังไง งงงง การกางร่มถ่ายรูป มันลดความงามไปหรือยังไงนะ

  

Monday, September 3, 2012

"มึงไทยมาก" หรือ "Thailand only"

เคยได้ยินแกระแสคำว่า "มึงไทยมาก" กันบ้างมั๊ย ที่หลายคนมองว่า เป็นลักษณะนิสัยที่เหมือนบ่งบอกว่า ทำตัวแย่ วลีเจ็บๆ ที่โพสกันบนเพสบุ๊ค  ...แล้ววันก่อนไปเที่ยวเชียงรายที่ไร่แม่ฟ้าหลวง ผมก็ไปสะดุดตากับเจ้าหนังสือเล่มนี้เข้า ชื่อว่า "Very Thai" ถ้าจะให้อ่านแบบไทยๆ ก็จะประมาณ "ไทยมาก" เลยนึกไปถึงวลีเด็ด ที่คนไทยถูกว่าเจ็บๆนั้นเข้า

แต่หนังสือเล่มนี้รวบรวมวัฒนธรรมแบบไทยๆ สิ่งที่เราพบเห็นมองเห็นกันทุกวัน เป็นเอกลัษณ์แบบไทยๆที่มองเห็นกันบ่อยๆแบบไม่เหมือนใคร

เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ซื้อมาเพราะเงินไม่พอ ไว้มีโอกาสคราวหน้าไม่พลาด จะซื้อเก็บไว้ ...แต่หนังสือเล่มนี้น่าจะเข้าวลีของพี่โน๊ตอุดม แต้พานิช เสียมากกว่า ที่ว่า "Thailand only"


อย่างเช่น คำว่า กินเล่น นอนเล่น เดินเล่น คุยเล่น เรื่องเล่นๆ ที่สะท้อนความสบายแบบไทยแท้ ว่าเป็นคนชอบเล่นๆขนาดไหน แล้วก็เรื่องราวของสิ่งรอบตัวในมุมมองของชาวต่างชาติอย่าง  รถตุ๊กตุ๊ก เรือหางยาว หรือบรรจุภัณฑ์อาหารอร่อยริมทาง ที่ห่อ รัด มัด หิ้ว ถุงใส่น้ำที่มีหูหิ้วในตัว ล้วนแปลกตาแต่สร้างสรรค์ตอบสนองวิถีไทย
หรือแม้แต่ดัดแปลงพัดลมเครื่องยนต์มาขจัดควันเหนือเตาหอยทอด


หนังสือ Very Thai : Everyday Popular Culture 
เขียนโดย  Philip Cornwel-Smith

ตีพิมพ์ในปี 2004 และพิมพ์ซ้ำติดต่อกัน 4 ครั้ง ปี 2006-2008 
โดยเป็นหนังสือที่ติดอันดับขายดีในหลายประเทศทั่วโลก
และได้รับการยกย่องให้เป็น 1ใน 3ของหนังสือที่ดีที่สุดในปี 2005
จากหนังสือพิมพ์ The Japan Times