1. กำลังจะจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่นจัดคือ เดือนสิงหาคม เช่นกัน
2. มีมุมถ่ายรูปที่ทำออกมาเหมือนกับว่าเราอยู่ในเมืองญี่ปุ่น บรรยกาศแบบสวนญี่ปุ่น ...หลายร้านเปิดในห้าง ถ่ายรูปก็เกรงใจ บางร้านไม่ให้ถ่ายด้วย แต่ร้านนี้ จัดมุมถ่ายรูปมาพร้อม
3. เป็นร้านอาหารที่ ออกมาในแนวฟู้ดคอร์ท ที่ประกอบไปด้วยหลายๆร้าน นั้นมันหมายความว่า ผมก็จะนั่งกินได้สบายใจไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาและเด็กเสิร์ฟยืนมองจนกินไม่ลง
ก็เลยตัดสินใจไปรีวิวร้าน Hako Town กันดีกว่า ว่าเป็นร้านแบบไหนกันแน่ ทำเป็นเมืองหรือยังไงถึงได้ลงท้ายชื่อร้านว่า Town แล้ว Hako คืออะไรกัน ...งั้นไปลุยกันเลย
ร้านตั้งอยู่บนถนน ประดิษฐ์มนูญธรรม (ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) อยู่ติดกับปั้มเอสโซ่ ตรงทางขึ้นทางด่วนโยธินพัฒนา ริมถนนเลยครับ
ป้ายทางเข้าคงจะต้องสังเกตุกันนิดนึง เกือบเลย เพราะป้ายค่อนข้างเล็กต้นไม้บังอีก
มาถึงร้านถ้าใครขับรถมา เลี้ยวรถเข้าไปแล้ว ขับรถไปจอดด้านหลังร้านได้ครับ จะมีที่จอดรถใหญ่โตจอดได้หลายสิบคันสบายๆ แล้วเดินกลับมาที่ร้าน
มาดูการจัดร้านกันก่อน การออกแบบดูเหมือนจะมีการจัดพื้นที่ตรงกลางไว้สำหรับรับประทานอาหาร รายรอบไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นหลากหลายแบบ ทั้งร้านปิ้งย่าง ข้าวปั้น ร้านปลาดิบ ร้านราเมน ร้านเกี้ยวซ่า ร้านน้ำดื่ม ฯลฯ แต่ล่ะร้านจะเป็นร้านขายอาหารเฉพาะของตัวเอง มีโลโก้ร้านเหมือนเป็นหลายๆแบรนด์ ในพื้นที่เดียวกัน
ที่น่านใจคือเวลาเราไปสั่งอาหาร สิ่งแรกเลยคือเราต้อง ไปแลกเงินเป็นบัตรเงินสดก่อน จะแลก 100, 200,500 ก็แล้วแต่ความสะดวกครับ ด้วยตู้แลกบัตรอัตโนมัติ แล้วเอาบัตรไปรูดสั่งอาหารได้ตามร้าน ...สั่งอาหารเสร็จไม่ต้องยืนรอครับ จะได้เพจเจอร์มาหนึ่งเครื่องสำหรับเตือนเมือ่อาหารทำเสร็จแล้ว จึงค่อยเดินกลับมารับอาหารที่ร้าน ไปนั่งกินสบายใจ ...ไฮเทคนะว่ามั๊ย
ตู้แลกบัตรเงินสดอัตโนมัติ
ได้เพจเจอร์มาสำหรับเตือนอาหารเสร็จ
แล้วแต่ล่ะร้านจะไม่ค่อยมีรูปอาหารติดมีแต่ชื่อมีแต่ชื่อ อาหารกับราคา ตรงนี้แหละมีอีกความน่าสนใจหนึ่ง คือทางร้านกำลังทำแอพพิเคชั่นสำหรับมือถือ อีกไม่นานก็จะเปิดใช้ วิธีก็คือ ให้เอามือถือมาส่องตามชื่ออาหารที่มีติดทุกร้าน แล้วเราจะเห็นรูปอาหารครับ อีกหนึ่งไฮเทค แต่ไมต้องกังวล ยังไงซะเขาก็ยังมีรูปอาหารในระบบดิจิตอลPhoto ตั้งให้ชมทุกร้านด้วย
อาหารญี่ปุ่นที่นี่ ราคาไม่แพงนะครับ เพราะเท่าที่รู้มาคือ ทางร้านพยายามสร้างร้านขึ้นมาให้มีค่าใช้จ่ายตำที่สุดตั้งอต่การออกแบบ การเลือกใช้เทคโนโลยีแทนคน การวางสถาปัตยกรรม การออกแบบระบบจัดการร้าน แทบจะทุกอย่างทำเพื่อให้ร้านลดต้นทุนได้มากที่สุดและก็ออกมาไม่เหมือนใครด้วย นั้นทำให้ค่าอาหารที่นี่ถูกลงไปได้มากกว่าครึ่ง จากการไปเปิดร้านในห้าง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่ามาก ...เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจครับกับราคาอาหารที่ไม่แพงเลยกับอาหารญี่ปุ่นที่ hako town
ที่มาของชื่อ Hako Town ก็เพราะว่าการออกแบบครับ คำว่า Hako ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "กล่อง" ดังนั้นจึงเหมือนเมืองกล่อง จัดวางแบบกล่อง เล็กๆไม่ใหญ่ ไม่ได้เป็น Town ที่ใหญ่โตอะไร จึงใช้ชื่อนี้ Hako Town
ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆอีกหลากหลายมุม ที่ทำให้เรานึกถึงประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ แล้วถ้าใครอยากจะมาลองห้องน้ำระบบฉีดก้นอัตโนมัติ แบบเดียวกับที่พีโน๊ตอุดม แต้พานิช เคยพูดไว้ในเดี่ยวไมโครโพนแล้วล่ะก็ ที่นี้ห้องน้ำทุกห้องครับระบบนั้นเลย ญี่ปุ่นมากๆ ไม่ลืมความรู้สึกคนไทยจริงๆ ...แต่ไม่ใช่แค่คนไทยนะครับ ที่จะชอบ คนญี่ปุ่นมากินก็มี ถือว่าอาหารรับได้ทั้งถูกปากคนไทยและคนญี่ปุ่นเลยล่ะ
ที่พลาดไม่ได้ 5 สิงหาคมนี้ ทางร้านกำลังจะมีงานเทศกาลดอกไม้ไฟ กระซิบบอกมาว่า ในงานจะเป็นบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ทุกคนใส่ชุดยูกาตะ (กิโมโนฤดูร้อน) น่ารักมากทั้งงาน มีกิจกรรมแบบญี่ปุ่น มาแล้วไม่ผิดหวัง งานนี้ขายบัตรคนสนใจเยอะมาก รับคนเข้างานแค่ 200คน ใครสนใจรีบติดต่อไปเลยนะ ไม่อยากให้พลาด งานดีๆ
ลองหาโอกาสแวะมากินนะครับ ร้าน Hako Town
สนใจข้อมูลเพิ่มเติม เข้าไปชมได้ที่ เฟสบุ๊คของทางร้าน
http://www.facebook.com/hakotown
หรือสนใจอ่านรีวิวร้าน จากสะดุดตาที่
http://www.sadoodta.com/travel/hako-town-“ฮาโกะทาวน์”-ร้านอาหารญี่ปุ่นที่สร้างประสบการณ์เล็กๆในความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่
ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรขายบ้างราคาเท่าไหร่ ที่ hako town เราทำลิสต์ไว้ให้แล้ว มาสำรวจกันก่อนได้
http://www.sadoodta.com/travel/มีอะไรกินบ้าง-ราคาเท่าไหร่-ที่ฮาโกะ-ทาวน์hako-town
เวลาเปิด-ปิด ของร้าน Hako Town
จันทร์ - ศุกร์. : 16:00 - 24:00
เสาร์ - อาทิตย์ : 11:00 - 24:00
ติดต่อ โทร : 086 881 8785
ทางเข้าร้าน
บรรยากาศในร้าน มีบ่อน้ำแบบญี่ปุ่น
บริเวณโต๊ะรับประทานอาหาร
ในร้านราเมน โซบะ
โซบะแห้งแบบครบเครื่อง
ร้านปิ้งย่าง
ข้าหน้าปลาดิบ ราดด้วยน้ำชาปลาแห้ง
บ่อน้ำ
มุมถ่ายรูป
ห้องน้ำ
มีร้านหลายร้านตั้งเรียงราย
สั่งอาหารแล้วไปรอรับได้เลยครับ
บรรยกาศยามค่ำ
ยามค่ำก็สวยมาเมื่อเริ่มเปิดไฟ
No comments:
Post a Comment