Thursday, April 30, 2015

ปริศนาถังน้ำบนหลังคาวัดญี่ปุ่น มันคืออะไร ที่วัดคองโกบุจิ เขาโคยะซัง

ไปเที่ยววัดเก่าแก่ของญี่ปุ่น ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นที่มรดกโลก เขาโคยะซัง (Koyasan) ซึ่งเต็มไปด้วย วัดมากมาย กว่า52 วัด และหนึ่งในวัดนั้น มีวัดคองโกบุจิ( Head Temple Kongobuji) ที่ถือว่าเก่าแก่และสำคัญมากวัดหนึ่งบนเขาโคยะซัง เป็นวัดหลักที่มีสาขามากกว่า 3,600สาขา อาคารทำด้วยไม้ทั้งหมด และที่สะดุดตาผมมากคือ มีถังน้ำไม้ใบใหญ่มากตั้งอยู่บนหลังคาวัดคองโกบุจิ

แล้วถังน้ำพวกนี้ตั้งอยู่ทำไมบนหลังคาวัด และยังมีตั้งหลายใบ แต่ดูไปมันก็สวยดีนะครับ เป็นถังไม้เสียด้วย หลายคนคงสงสัยเหมือนผม ...ไปหาคำตอบมาให้แล้วครับ


ภาพ วัดคองโกบุจิ( Head Temple Kongobuji) 


ถังน้ำบนหลังคาวัด


มีหลายจุดครับ ถังน้ำบนหลังคาวัด




ถังน้ำที่เราเห็นบนหลังคาวัดนั้น เขาเอาไว้ใช้ดับไฟ นั้นเอง ...เนื่องจากสมัยก่อน จะเกิดไฟไหม้บ่อย เนื่องจากวัดทำด้วยไม้ และอยู่ในเขาป่า เขาสูง เวลาเกิดฝนตก มักมีฟ้าผ่าลงมา บางทีก็มีไฟใหม้กันบ่อยๆ ทางวัดจึงทำจุดดับไฟไว้เลย บนหลังคาวัด ฝนตกก็รองรับน้ำด้านบนเก็บไว้ ถ้าฟ้าผ่าลงมาไฟไหม้ก็ปีนขึ้นไปเทน้ำดับไฟได้เลย ทางวัดจะมีจุดปีนขึ้น ส่วนบนหลังคาจะมีโซ่สำหรับไต่ขึ้นไปที่ถังน้ำด้วยครับ

จะเห็นรูปมังกรแกะสลักอยู่ที่หน้าจั่วหลังคาวัด ความเชื่อชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับมังกรนั้น มีความเกี่ยวข้องกับน้ำ และเชื่อว่ามังกรจะช่วยพิทักษ์รักษาด้วยน้ำให้พ้นจากไฟไหม้ด้วยจร้า 


เป็นอีกแนวคิด และวิถีของชาวญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เราได้เห็นจาก อาคารสถานที่เก่าแก่นะครับ เขาโคยะซังนี้ อายุครบ 1,200ปีในปี 2015 นี้พอดีครับ กำลังจะมีงานฉลองใหญ่

Tuesday, April 21, 2015

เก็บซากุระจากญี่ปุ่น มาฝากจร้า สวยหรือต่างกับนางพญาเสือโคร่งหรือเปล่า

ได้เห็นซากุระที่ญี่ปุ่น แบบเต็มต้นอย่างนี้แล้วก็อดคิดถึง ดอกนางพญาเสือโคร่งที่บ้านเราไม่ได้ วันนี้มาเที่ยวเมืองโคยะซัง ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกอายุ 1,200 ในปีนี้พอดี(2015) ก็เลยเก็บภาพดอกซากุระมาฝากกันจร้า

ถ้าถามว่า ต่างกันมั๊ย อันไหนสวยกว่ากัน ...ผมอาจจะเป็นคนไม่พิถีพิถันในรายละเอียดมากนัก ผมบอกได้เลยว่า มันสวยงามไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าจะซากุระของญี่ปุ่น หรือ นางพญาเสือโคร่งของไทย เคยค้นดูข้อมูลสายพันธุ์จริงๆแล้วมันก็อยู่ในตระกูลเดียวกันนี้ละครับ เพียงแต่ของบ้านเราจะเป็นจะออกเป็นสายพันธุ์ภูเขา ขึ้นอยู่บนที่สูง อากาศหนาว จะออกดอกก็ต้องรอให้อากาศหนาว และแล้ง มันก็จะพลิดอกให้เห็น


ส่วนซากุระของญี่ปุ่น ตามสภาพอากาศแล้ว เขาจะบานในช่วงฤดูใบไม้พลิ ก็ราวช่วงนี้ละครับ เมษายน ของญี่ปุ่น คือ หมดอากาศหนาวจัด เริ่มเข้าสู่อากาศแบบเย็นสบายที่ราวๆ 10-20องศา ช่วงเวลานี้ก็จะเริ่มออกดอกกัน และเป็นสัญญาลักษ์ของการหมดฤดูหนาวซะด้วย เพราะบ้านเขาหนาวทีหนาวจัดกว่าเมืองไทยมาก

จะว่าไปมันก็ออกดอกในช่วงอุฌหภูมิใกล้ๆกันทีเดียว เพียงแต่ว่า ประเทศเรากับประเทศเขามีอากาศ สิบกว่าองศา กันคนละเดือน ของเราต้องหน้าหนาว ของเขาต้องฤดูใบไม้พลิ


ส่วนลักษณะดอกผมบอกเลยว่า ดูไม่ค่อยเป็นนัก ถ้าคิดว่าสายตาผมเป็นแบบคนทั่วๆไปที่ไม่ได้เรียนศึกษษด้านพันธุ์ซากุระมาโดยตรง ก็คงจะบอกว่า มันสวยไม่ต่างกันเลย แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะมีหลายแบบ หลายลักษณะมากๆครับ สำหรับซากุระ บางต้นกิ่งนี้โน้มแทบติดพื้นดิน บางพันธุ์ก็ชูกิ่งซะสูงเชียว มีทั้งสีขาว สีอมชมพู สีชมพู แยกเข้าไปอีก แต่พอมองที่ลักษณะดอกเหมือนกันมากทีเดียว เหมือนนางพญาเสือโคร่งด้วย



สรุปเลยว่า ผมชอบทั้งดอกนางพญาเสือโคร่ง และดอกซากุระ สวยเหมือนกัน ความรู้สึกที่ได้ชมไม่ต่างกัน




มาผิดสนามบิน ประสบการณ์รีบสุดชีวิต สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง

เป็นประสบการณ์ที่ขอบอกว่า ครั้งแรกเลยกับการจำผิดสนามบิน เดินทางก็บ่อย คราวนี้พลาดจนได้ ทั้งที่ มีกำหนดการทุกอย่างแล้ว เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น กับสายการบินแอร์ไทยเอเชียเอ็กซ์ แล้วนัดกัน 13.00น.ที่เคาเตอร์เช็คอิน นัดเวลาเพื่อๆไว้ เพราะเครื่องออกบ่ายสามกว่าๆ




ไอ้เราก็กะว่าจะไปก่อนเวลานิดนึง เรียกรถแท็กซี่มารับ ดันไปแจ้งว่าจะไปแอร์พอร์ตลิงค์หัวหมาก ในใจคิดว่าต้องไปสุวรรณภูมิ ก็เลยพลาดเลย คราวนี้กว่าจะรู้ตัวถึงสนามบินเรียบร้อย ก่อนเวลาด้วย มาคิดได้ว่านัดกันที่เคาเตอร์แอร์เอเชีย ซึ่งไม่มีในสุวรรณภูมิ เพราะเขาอยู่ดอนเมืองนะซิ บ้าจริง

ทำงไละครับ คราวนี้ อีก ดูนาฬิกา อีกครึ่งชั่วโมง จะบ่ายโมงตามเวลานัดละ ไม่ทันแน่ เพราะมันไกลมาก

ตัดสินใจ นั่งรถไฟแอรืพอร์ตลิงค์กลับไปรามคำแหงแล้วต่อแท็กซี่ อย่างรีบเลยคับ  มาช้าตอนรอรถไฟสัก10นาทีได้

จากนั้นรีบโบกแท็กซี่ ขึ้นทางด่าน ตรงเอกมัย-รามอินทรา​ แล้วเข้ารามอินทรา ดีที่รถไม่ติดด้วย แล้วมาขึ้นด่านโทลเวย์อีกที

สรุปแล้ว นั่งรถไฟออกมา 30บาท ท่างด่วน 30บาท โทลเวย์ 30บาท ค่าแท็กซี่ 250บาท รวมความรีบครั้งนี้ 340บาท และใช้เวลาในการเดินทางมาดอนเมือง 40นาที ทันเวลา



ประสบการณ์ครั้งแรกกับการมาผิดสนามบิน ดีนะครับที่นัดเวลาเพื่อไว้ นี้ถ้านัดเวลาใกล้ๆ เคาร์เตอร์สายการบินปิดละยุ่งเลย


Monday, April 20, 2015

แบคแพคเกอร์สนใจมั๊ย หมอนไม้ พับเก็บได้พกพาสะดวก

ถือว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านจริงๆครับ กับหมอนไม้ หมอนที่ทำจากไม้ นั้นละครับ มองปราดแรกก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็ได้รู้จากป้าที่ขายเจ้าสิ่งนี้อยู่ว่ามันคือหมอน เท่านั้นละ จินตนาการมาเลย ..เจ๋งอะ!!


เป็นหมอนที่มีแนวคิดการประดิษฐ์ที่นับว่าน่าสนใจมากครับ ปกติเราเคยชินกับหมอนนุ่มๆ หนุนหักันใช่มั๊ยครับ แต่หมอนใบนี้ตอบโจทย์อีกแบบหนึ่งของวิธีชีวิตชาวบ้าน มันถูกสร้างด้วยไม้ และเป็นไม้แผ่นเดียวเล้กๆ ที่เอามาเข้าสลักกันเท่านั้น ใช้หนุนหัวได้ แต่ตองมีผ้าปูรองด้วยนะครับ เพื่อไม่ให้รอยต่อรอบพับของ หมอนไม้ ไม่หนีบเส้นผม และยังสามารถพับเก็บได้อีกด้วย แข็งแรงทนทาน ประยุกต์ใช้ทำที่วางของได้ด้วย

เห็นแบบนี้แล้ว นักเดินทางทั้งหลาย นักพจญภัย จะสนใจผกติดตัวไว้เป็นหมอนหนุนหัวยามเดินทางกันมั๊ยนะ ...ผมว่าน่าสนใจนะ เพราะบางที่เราก็ต้องนอนในที่ ที่มันวางหมอนลำบาก พื้นอาจจะไม่ได้สะอาดนัก หรือ หมอนนิ่มๆตอบโจทย์การใช้งานไม่ได้

อยากรู้ใช่มั๊ยครับ ว่าผมเจอเจ้า หมอนไม้ นี้ที่ไหน ...ที่ร้านค้าของที่ระลึกหน้าวัดเจดีย์ชัยมงคล จ.ร้อยเอ็ด ป้าเขาขายที่ราคา 60บาทเท่านั้น




คลิปวีดีโอ



Friday, April 17, 2015

สัตว์หิน 4ชนิดแห่งสามพันโบก ที่ต้องไปเยี่ยมชมให้ได้

ธรรมชาติบนลานหินริมน้ำโขง นั้นสวยงามขนาดไหน หลายคนไปเยือนมาแล้ว ยิ่งความงามของสามพันโบกด้วยแล้ว ดั่งต้องมนต์ กันเลยทีเดียว ด้วยภาพที่เห็นเป็นลานหินที่ถูกน้ำเซาะกักกร่อนมาหลายล้านปี จนกลายเป็นหินที่ที่มีพื้นผิว รูปทรง อันเป็นเอกลักษ์ ดั่งงานศิลปะชิ้นใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขง ไม่เพียงเท่านั้น รอบบริเวณ ยังปรากฏ หินรูปร่าง แปลกตาอีกมากมาย ที่ทำให้จินตนาการไปได้มากมาย


Fantastic four แห่งสามพันโบก


และจุดเด่นๆ ที่ไปเยือนสามพันโบก(3,000โบก)แล้ว ต้องไปเยี่ยมชมให้ได้ กับสัตว์หิน 4ชนิด ที่เมื่อคุณเห็นจะต้องอึ้งกับธรรมชาติสร้างสรรค์ในครั้งนี้

ภาพนี้ "หินจรเข้" เหมือนมีจรเข้กำลังผุดขึ้นจากบ่อน้ำ อย่างกับกำลังจัดฉากไว้ทีเดียว จุดนี้อยู่ตรง ลานหินสี ซึ่งอยู่ติดกับสามพันโบกนั้นละครับ ตำแหน่งGPS คือ 15.789257, 105.416885

ภาพนี้ "หินเต่า" ดูเอาครับเหมือนเต่าจริงๆละ อยู่ในพื้นที่ริมน้ำ ที่สามพันโบก ตำแหน่งGPS คือ 15.793596, 105.402122

ภาพนี้ "หินหัวหมา" สังเกตุหินที่เป็นหน้าผายืนออกมาทางขวามือของภาพ จุกนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพกันมาก ตำแหน่ง GPS คือ 15.793445, 105.402271

ภาพนี้ "หินมิคกี้เมาส์" ขอจัดไว้ในหมวด สัตว์หินด้วยก็แล้วกันนะครับ ก็มันเหมือน หนูมิคกี้เมาส์นี้นะ ตำแหน่ง GPS คือ 15.792805, 105.402364


ใครได้ไปเห็นมาครบกันแล้วบ้าง ยกมือหน่อย


เรือนำเที่ยว โขงเจียม ชมแม่น้ำสองสี ราคาเท่าไหร่ คิดยังไง

คำถามว่า เรือนำเที่ยว โขงเจียม ชมแม่น้ำสองสี ราคาเท่าไหร่ คิดยังไง ...ผมมาเที่ยวโขงเจียมพอดี เจอป้าโฆษณาอันนี้เขาเลยถ่ายภาพมาฝาก เก็บไว้เป็นข้อมูลครับ กับการบริการเรือนำเที่ยว ชมแม่น้ำสองสี ทีโขงเจียม เพื่อว่าใครสนใจก็ลองติดต่อกันดูได้


เหมาลำราคาเริ่มต้นที่ 350บาท โปรแกรมชมแม่น้ำสองสี ใช้เวลาในการเที่ยวประมาณ 30นาที รอต่อลำรับได้ ตั้งแต่ 1-9 คน คนที่10 ขึ้นไปเขาคิดเพิ่ม คนละ 35บาท มีเสื้อชูชีพให้ครบทุกคน 

เบอร์โทรติดต่อตามป้ายนะครับ 

เก็บไว้เป็นข้อมูลครับ เที่ยวโขงเจียม จ.อุบลราชธานี

รีวิวโรงแรมอารยารีสอร์ท โขงเจียม

มานอนบ่อยครับกับโรงแรมอารยารีสอร์ท ที่โขงเจียม เป็นโรงแรมที่อยู่แทบจะสุดทางของโขงเจียมเลยกว่าได้ แต่ที่นี้ใกล้แม่น้ำสองสี คือจุดที่แม่น้ำมูล มาเจอกับแม่น้ำโขง ในรีสอร์ทยังมี สระว่ายนเำด้วย นี้ละที่ทุกคนชอบ เพราะจะได้เล่นน้ำในเวลาว่างด้วย

ที่รีสอร์ทจะมีสระว่ายน้ำสองสระ จะมีห้องส่วนหนึ่งที่อยู่ติดริมสระถ้าใคชอบก็อย่าลืมจองห้องติดริมสระน้ำนะครับ และยิ่งไปเป็นหมู่คณะด้วยแล้ว จองห้องที่ติดริมสระเล็กๆนะล้อมสระเอาไว้เลยยิ่งดีเลย กลายเป็นมุมส่วนตัวไปเลยละ ...เริ่มส่วนตัวละ

ในรีสอร์ทมี ฟรีWiFi ให้ใช้ ครับ แรงพอจะมาถึงห้องผมได้ แต่ช่วงค่ำบางที่สัญญาณก็ไม่ค่อยดี อาจจะมีคนใช้เยอะก็เป็นได้

เรื่องห้องพัก ก็ถือว่ามาตรฐานทั่วๆไปนะครับ ใช้ระบบกุญแจล๊อคห้อง ความสะอาดถือว่าปานกลาง แต่เมื่อเทียบกับที่พักบริเวณนี้แล้ว ถือว่ามาตรฐานดี มีระเบียงหลังห้องให้ด้วย กับโต๊ะชุดใหญ่

เรื่องอาหารเช้า ก็เป็นพวกข้าวต้ม สลัด ผลไม้ ทั่วๆไปครับ แต่ห้องอาหารจะอยู่ติดริมแม่น้ำมูล เช้าๆเราจะเห็นเรือพายมาหาปลาบริเวณนี้ด้วย


ภาพในห้องพักของผม


ห้องน้ำจร้า

ระเบียงหลังห้องติดริมสระน้ำ


สระน้ำเล็กอีกตึก

ผมเข้าพักเมื่อช่วงสงกรานต์ ปี 2558



Tuesday, April 14, 2015

เปลี่ยนไปมากทีเดียว ร้านประไพ สนามบินขอนแก่น

ไม่ได้มากินร้านนี้นาน ร้านประไพ สนามบินขอนแก่น ซึ่งแต่ก่อนไม่ค่อยมีร้านอาหารมากนักในเมืองขอนแก่น เราก็มักจะนึกถึงร้านนี้อยู่เป็นประจำ ด้วยว่าเป็นอาหารพื้นเมือง และอร่อย เป็นร้านมีชื่อมากทีเดียวของเมืองขอนแก่น และยังตั้งอยู่ในเส้นสนามบิน


หลายครั้งที่นักท่องเที่ยว เดินทางด้วยเครื่องบิน ถ้าพอมีเวลา ก็จะมากินกันที่ร้านนี้ละครับ เป็นอาหารพื้นเมืองอีสาน

วันนี้วันปีใหม่ไทย หรือวันสงกรานต์ 58 ได้มีโอกาสกลับไปกินอีกครั้งแทบจำไม่ได้ แต่ร้านก็อยู่ที่เดิมนี้ละ ฝั่งตรงข้าม โรงแรมราชาวดี ขอนแก่น ...ตอนนี้ร้านประไพ ใหญ่ขึ้น มีโซนใหม่ ที่เปิดยาวถึงเที่ยงคืน มีดนตรีสดเล่นด้วย มีที่จอดรถด้านหลังร้านอีกด้วย จากเดิมที่มีแค่ร้านในตึกแถว ซึ่งตอนนี้กโซนนั้นก็ยังมีอยู่ แต่ขยายร้านเช่นกันเป็นห้องแอร์นั่งสบายแต่โซนเดิมจะปิดเร็วกว่าคือ3ทุ่ม

ถ้าใครอยากนั่งยาวๆก็มากินฝั่งหนึ่งได้ เปิดถึงเที่ยงคืน โซนใหม่นี้มีมุมกาแฟสดจำหน่ายกันด้วย และก็ดูเหมือนว่าราคาจะสูงขึ้นด้วยนะครับ แต่ยังอร่อยเหมือนเดิม ครั้งนี้ถือว่ามาอัพเดทกันครับ

มีดนตรีร้องสดๆให้ฟังด้วย


เมนูของทางร้าน


ปลาส้ม

อาหารแนะนำ แป๊ะซะแกงส้มปลาช่อน


ร้านประไพ สนามบินขอนแก่น เปิด 11.00-24.00น. ทุกวัน

ขนมหนวดมังกร ขนมในตำนานของจีนจากถนนคนเดินขอนแก่น

วันศุกร์และวันเสาร์ที่ถนนคนเดินจังหวัดขอนแก่น มีร้านขนมโบราณของชาวจีนน่าสนใจครับ เอามาแนะนำกัน เพราะไม่ค่อยได้เห็นกันนัก "ขนมหนวดมังกร" การทำนี้คล้ายๆกับที่เราเคยเห็นการทำเส้นบะหมี่เลยครับ เพียงแต่นี้เป็นเส้นน้ำตาล รสชาตินี้เหมือนสายไหม แต่เขาจะเอามาห่อกับถั่วรสชาติต่างๆ

ที่ถนนคนเดินขอนแก่น ทางร้านมาทำโชว์การยืดเส้นหนวดมังกร กว่าจะได้อย่างที่เห็นนี้ต้องมีการยืดไปมานานทีเดียวครับกว่าจะออกมาแบบที่เห็นนี้ เวลาอากาศหนาวๆก็จะทำยากเพราะมันจะยิ่งยืดยาก ดังนั้นหน้าร้อนแบบนี้จะทำง่ายกว่า ยืดไปมากลายเป็นเส้นเป็นฝอย น่ากินมาก



คลิปVDO การทำขนมหนวดมังกร


ถ้าถามว่าอร่อยมั๊ย ผมชอบนะ รสชาติคล้ายๆสายไหมห่อถั่วตัดประมาณนั้น อร่อยดี ชอบๆ

กล่องละ 50 บาท และกล่อง 35 บาท

ใครสนใจก็ลองติดต่อดูได้ครับ เขายินดีส่งให้
โทร. 083 4025303 , 095 5491332
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/pages/ขนมหนวดมังกรขอนแก่น/171181572944342


ภาพเขียนฝาผนังลายผ้าไหมมัดหมี่ ในสิมอีสานวัดป่าแสงอรุณ ขอนแก่น

บางครั้งการเที่ยววัด ก็ทำให้เราได้เห็นความงามแบบนี้ ภาพเขียนฝาผนังลายผ้าไหมมัดหมี่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดขอนแก่น ภายในสิมหรือโบสถ์วัดป่าแสงอรุณ เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่สะดุดตาไปกับการตกแต่ง ด้วยลายผ้าไหมมัดหมี่ เขาไม่ได้เอาผ้าไหมมาตกแต่งด้านในสิมนะครับ แต่ว่าเป็นการวาดในแบบจิตรกรรมฝาพนัง


เป็นเหมือนการอนุรักษณ์ลายผ้าโบราณ สวยและหายากไว้ให้คนรุ่นต่อๆไปได้มีโอกาสได้เห็นกัน ด้วยการวานเขียนสีจิตรกรรมฝาพนังภายในอุโบสถวัดหรือที่คนอีสานเรียกว่า สิม นั้นละครับ ลองเดินเข้าไปและสังเกตุที่บานหน้าต่าง จะเห็นว่ากรอบบานหน้าต่าง จะเป็นลวดลายผ้าไหม ที่มองปกติคิดว่าเป็นผ้าจริงเสียอีก เดินเข้าไปมองใกล้ถึงได้รู้ว่าเป็นภาพวาด และทุกลาย จะมีการเขียชื่อลายกำกับไว้ด้วยทุกลาย


ภาพ : สิมวัดป่าแสงอรุณ


ภาพ: ภายในสิมวัดป่าแสงอรุณ


ภาพ: ที่กรอบบานหน้าต่างจะเห็นลวดลายผ้าไหมมัดหมี่

ภาพ: ทุกลายจะมีชื่อกำกับ อันนี้ลาย หมี่โคมผสมดอกจับ





ภาพ: ตรงนี้มีป้ายบอกว่า เข้าชมสิมอีสานได้ เปิดเวลา 08.07น. ปิดเวลา 18.06 น. ทุกวัน เห็นเวลาเปิด-ปิดแล้วสะดุดตาอีกที่เวลามีเศษด้วยนะ


วัดป่าแสงอรุณ ตั้งอยู่ที่ ตำบลพระลับ ห่างจากศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ประมาณ 3 กิโลเมตร ตามเส้นทางขอนแก่น-กาฬสินธุ์

ตำแหน่ง GPS 16.425394, 102.885972

ดอกคูนเส้นสนามบินขอนแก่น กำลังเหลืองอร่ามวันปีใหม่ไทย

รายงานกันสดๆครับ ตอนนี้ผมอยู่จังหวัดขอนแก่น ได้มีโอกาสแวะผ่านไปตรงถนนหน้าสนามบินขอนแก่น อยากบอกว่าตอนนี้ ดอกคูนเมืองขอนแก่นกำลังออกดอกเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งถนนตลอดเส้นทาง


ดอกคูนหรือดอกราชพฤกษ์​นั้น เป็นดอกไม้หน้าร้อน ที่ออกดอกให้เราได้สดชื่นกันทุกครั้งที่ฤดูร้อนมาเยื่อน เราสามารถพบเห็นต้นราชพฤกษ์นี้ได้แทบจะทุกจังหวัด และมีในเส้นทางหลวงของไทยหลายๆเส้นที่ปลูกต้นราชพฤษ์กันตลอดแนวถนน

แต่สำหรับที่ขอนแก่น เขาเรียกดอกของต้นราชพฤกษนี้ว่า ดอกคูน คงเคยได้ยินคำว่า "ดอกคูนเสียงแคน"กันใช่มั๊ยละครับ นั้นละ

ต้นที่ทิ้งใบหมดจะดูสวยมาก เพราะมันจะหลืองไปหมดทั้งต้น และยิ่งสวยมากเมื่อมันเหลืองไปทั้งถนน ใครที่กำลังอยู่ในจังหวัดขอนแก่นลองขับรถแวะมาชมกันได้ ถนนหน้าสนามบินขอนแก่นกำลังสวยเลยครับ ลงบันทึกไว้เลยว่าสะดุดตามาเที่ยวชมเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2558 ปีใหม่ไทยจร้า






Monday, April 13, 2015

รีวิวร้านตุ๊กตาปลาจุ่ม สาขาริมบึงแก่นนคร ขอนแก่น

วันนี้เป็นวันของการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ของผม และเราก็เดินทางกันมาถึงจังหวัดขอนแก่นแล้ว จึงต้องออกไปหาอะไรอร่อยๆกินกันสักหน่อย จัดรีวิวร้านที่อยู่ริมบึงแก่นนครมาให้ร้านนึงครับ คือร้าน ตุ๊กตาปลาจุ่ม สาขาสอง ที่เห็นแวบแรก คนเยอะอะร้านนี้ น่าสนใจ จอดรถหน้าร้านได้ แล้วเราเดินเข้าไปสำรวจกันก่อนเลย


ภายในร้านไม่ได้ใหญ่อะไรนักครับ น่าจะรองรับนักกินได้สัก 15 โต๊ะ โดยประมาณนะครับ แต่ที่เห็นทุกโต๊ะสั่งมากิน มีหม้อใหญ่วางอยู่ เดาได้เลยว่าปลาจุ่มแน่นอน ...ว่าแต่ ร้านคนเต็มเลย เราจะนั่งไหนดีนะ ...สักพักก็ได้ที่นั่งครับ

ร้านนี้เด่นที่เมนูปลาจุ่มที่เขาว่าอร่อย หม้อใหญ่ ..เขาใช่หม้อไฟฟ้าครับ เสียบปลั๊กเอา จะมีเสาปลั๊กไฟอยู่ใกล้ๆทุกโต๊ะ แต่บางโต๊ะออกจะมืดสักหน่อย แต่ส่วนกลางร้านก็สว่างดีนะครับ อาจจะเพราะวันนี้เป็นวันสงกรานต์คนเลยะยอะ พวกเราเลยได้ที่ลงแบบโต๊ะริมๆไกลไฟไปนิด แต่โดยรวมถือว่าถูกปากพวกเราพอสมควรละครับ

แนะนำกันไว้ เพื่อใครชอบเมนูแบบนี้ ปลาจุ่ม