Wednesday, August 29, 2012

งานท่องเที่ยว2งาน ปลายเดือนนี้และปลายเดือนหน้า


ใครกำลังตัดสินใจหาPackage ดีน่าเที่ยว สำหรับปลายปีนี้ 2งานนี้แหละ เตรียมเงินเตรียมแผนการเที่ยว เตรียมวันหยุด ไว้ให้พร้อม แล้วไปเลือกกันเลย  เพราะ2งานนี้ เป็นงานที่จะมีผู้ประกอบการท่องเที่ยว บริษัททัวร์ โรงแรม รีสอร์ท มาจัดแพคเกจดีๆ แข่งกันขายหลายตัว



สิ้นเดือนนี้ สิงหาคม 2555 มีงานท่องเที่ยวที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่  30 ส.ค.-2 ก.ย.55
http://www.sadoodta.com/event/งานไทยเที่ยวไทย-ครั้งที่-25

สิ้นเดือนหน้ามีอีกงาน กันยายน 2555 งานเที่ยวเมืองไทย สบายกระเป๋า ครั้งที่ 4 วันที่ 27-30 กันยายน 2555
http://www.sadoodta.com/event/งานเที่ยวเมืองไทย-สบายกระเป๋า-ครั้งที่-4-ปี-2555


งานเที่ยวไทยสบายกระเป๋าครั้งนี้ จะมีเส้นทางท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมาพิเศษ 10เส้นทางด้วย โดย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นผู้ออกแบบเส้นทางพิเศษเหล่านี้เอง และจะได้ราคาพิเศษ พร้อมกิจกรรมพิเศษตลอดทริปอีกด้วย ที่ยากจะหาได้จากการเที่ยวด้วยตัวเอง และถ้าจ่ายเงินซื้อทัวร์ครบ 10,000 บาทในงานยังมีแถมทัวร์ฟรีอีกหนึ่งทริปในต้นปี 56 ให้เลือกด้วย

โปรโมชั่น
1. ซื้อครบ 10,000 บาท แถม 1 ทัวร์
2. ใช้บัตรกสิกรรูดซื้อสินค้า ไม่มีค่าธรรมเนียม พร้อมรับบัตรกำนัล
3. ทุก 1,000 บาท ลุ้นรางวัลห้องพักและตั๋วเครื่องบิน
4. ของที่ระลึกอื่น ๆ ภายในงาน

ส่วนงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่25 นี้ก็
มีแพคเกจที่จัดมาจากหลากหลายบริษัท ให้เลือกมาก กำลังทยอยออกมาประชาสัมพันธ์กันเรื่อยๆ เทคนิคการเลือกที่ดี อย่าลืมว่า ทุกๆปี ก็จะมีการร้องเรียนเรื่องแพคเกจต่างๆกันมาก เพราะฉะนั้น จะซื้อจะจองอะไรที่ไหนตรวจสอบให้ดีให้แน่ใจก่อนว่านะครับว่า ทัวร์มี license จากกระทรวงท่องเที่ยวจริง หรือโรงแรมนั้นๆ ไม่ได้รับการจองจนเกินปริมาณจริงๆ จะรับไหว

ส่วนราคาที่ ลดกันเยอะๆ ส่วนใหญ่จะให้กันช่วง Low แบบหน้าฝนนี้แหละครับ และการจองล่วงหน้านานๆก็  ต้องระวังเรื่องการติดต่อด้วย

ยังไงก็ขอให้ได้เที่ยวกับทัวร์ดีๆ ไปแล้วประทับใจนะครับ



สวนสนุกแห่งใหม่ใหญ่ระดับโลกมาแน่ 3แห่งในกรุงเทพฯ และชลบุรี ปลายปีนี้

หาที่เที่ยวใหม่ๆ กันอยู่หรือเปล่า ปลายปีนี้กับปีหน้า ปี 2556 มาแน่ สวนสนุกแห่งใหม่ใหญ่ระดับโลก 3แห่ง กำลังจะเปิดขึ้นในไทย ตอนนี้ก็มีข่าวประชาสัมพันธ์กันออกมาเป็นระยะๆ

ที่แรกจะเปิดปลายปีนี้ คือ

ที่กรุงเทพฯ "สวนสนุก คิดส์ ซาเนีย" มาจากฮ่องกง และจะเปิดให้บริการ ที่สยามพารากอน ลงทุนกว่า 550 ล้านบาท โดยในสวนสนุกจะมีเมืองจำลองเพื่อให้เด็กๆที่มีอายุ1-12 ปีเข้ามามีสวนร่วมในเกมส์ เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือน ธันวาคม 2555 นี้แน่นอน

สวนสนุกที่สองอยู่ชลบุรี

ชื่อว่า "สวนน้ำรามายณะ" เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างไทยกับรัสเซีย ตั้งที่ จ. ชลบุรี ลงทุน 900 ล้านบาท โดยมีเครื่องเล่นสไลเดอร์ บ่อน้ำพุ สระว่ายน้ำรูปแบบต่างๆ คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 56

สวนสนุกที่3 ก็อยู่ที่ชลบุรี

คือ "สวนน้ำการ์ตูน เน็ทเวิร์ค" เป็นการร่วมทุนระหว่างฮ่องกงและมาเลเซีย ตั้งที่ จ.ชลบุรี ลงทุน 620 ล้านบาท โดยมีเครื่องเล่นต่างๆจำนวนมาก คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 56

ปลายปีนี้ และเรื่อยไปจนถึงปีหน้า การท่องเที่ยวในประเทศไทยเราดูจะคึกคักขึ้นเรื่อยๆนะครับ


"สวนน้ำการ์ตูน เน็ทเวิร์ค" ชลบุรี


"สวนสนุก คิดส์ ซาเนีย" กรุงเทพฯ

"สวนน้ำรามายณะ" ชลบุรี

ชอบเที่ยวเกาะสมุย พะงัน ราชาเฟอร์รี่เปิดรับสมัครสมาชิกตุลาคมนี้

ใครชอบไปเที่ยวสมุยบ่อยๆ ด้วยการขับรถไปเที่ยวคงจะสนใจข่าวนี้ ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ เปิดรับสมัครบัตรสมาชิก รับทันทีส่วนลดค่าโดยสารข้ามเกาะสมุย และเกาะพะงัน พร้อมส่วนลดโรงแรม และร้านอาหารมากกว่า 10 แห่ง เพียง 100 บาทเท่านั้น เริ่มสมัครได้ตั้งแต่ 1ตุลาคม 2555 - 31 มกราคม 2556

สอบถามรายละเอียดได้ที่ Call Center โทร.02-2768211-2




ข้อตกลงและเงื่อนไขการสมัคร
1. คุณสมบัติผู้สมัคร
- บุคลทั่วไป ไม่จำกัดเพศ อายุ อาชีพ และสัญชาติ
( ชาวต่างชาติที่เป็นผู้ประกอบการ หรือชาวต่างชาติที่เป็นลูกจ้างที่พำนักอยู่ในประเทศไทยก็สามารถสมัครได้ )

2. เงื่อนไขการใช้บัตรสมาชิก
- ผู้ถือบัตรต้องแสดง และโชว์บัตรสมาชิกต่อเจ้าหน้าที่จำหน่ายตั๋วก่อนการซื้อทุกครั้ง
- บัตรสมาชิก 1 ใบ สามารถใช้ได้ทั้งเส้นทาง ดอนสัก สมุย และพะงัน
- บัตรสมาชิกสามารถใช้สิทธิได้ครั้งละ 1 รายการ เท่านั้น
- บัตรสมาชิกนี้ใช้ได้กับรถที่ระบุทะเบียนไว้บนหลังบัตร
- บัตรสมาชิกมีอายุบัตร 1 ปี โดยนับจากวันที่ออกบัตร
- กรณีการสมัครสมาชิก ทางบริษัทฯ จะคิดค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท
- กรณีต่ออายุบัตรสมาชิก สำหรับการเปลี่ยนแปลงบัตรสมาชิกโดยจะต้องมีบัตรเก่าแนบ จะคิดค่าธรรมเนียม 100 บาท
- กรณีบัตรสูญหาย หรือชำรุด ผู้ถือบัตรสมาชิก ต้องแจ้งให้ทางบริษัทฯทราบ และต้องทำบัตรสมาชิกใหม่แทนบัตรเดิมทางบริษัทฯ จะคิดค่าธรรมเนียม 500 บาท
- ผู้ถือบัตรสมาชิก และลงนามในเอกสารการสมัครได้ยินยอมปฏิบัติตามข้อตกลง และเงื่อนไขการใช้บัตรสมาชิกของทาง บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด ( มหาชน )
- บัตรสมาชิกถือเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ ผู้ถือบัตรจะโอนหรือมอบให้บุคคลอื่นนำไปใช้ หรือครอบครองมิได้ หากทางบริษัทตรวจสอบได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกบัตรสมาชิกทันทีโดยมิแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด ( มหาชน ) ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกเงื่อนไขของบัตรสมาชิกโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าทุกกรณี

3. เอกสารประกอบการรับสมัคร
- สำเนา 1 ชุด สามารถเลือกเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งตามรายการดังนี้
สำเนาบัตรประชาชน , สำเนาพาสปอร์ต , สำเนาใบขับขี่ หรือสำเนาทะเบียนบ้าน

Thursday, August 23, 2012

แนะนำร้านอร่อยที่สวนผึ้ง "ร้านอิ่มเพลิน" เรานั่งกินตั้ง 3ชั่วโมง

ถ้ากำลังหาร้านอร่อย และมี ฟรี wifi ที่สวนผึ้ง จ.ราชบุรี แล้วล่ะก่อ ผมขอแนะนำร้านนี้เลยครับ ไม่ผิดหวัง นั่งกินอยู่3ชั่วโมง มีทั้งขาประจำ ขาจร มีกินกันเยอะ ส่วนใหญ่แนะนำต่อๆกันมา แบบนี้แล้วกะรันตีได้ว่า ถุกปากหลายๆคนเป็นแน่ ร้าน "อิ่มเพลิน" สวนผึ้ง

ร้านบรรยากาศริมน้ำ (บ่อน้ำ) ในสวนปาล์ม มองไปเห็นวิวภูเขา ลมเย็นสบาย นั่งกินกันเพลินเลยล่ะ

หน้าร้านอิ่มเพลิน

ตัวร้านจะอยู่ริมน้ำ เป็นอาคารไม้ดูย้อนยุค เห็นแล้วนึกถึงบรยากาศเก่าๆ

ที่ด้านหน้าร้านติดถนน มีที่จอดรถ

ป้ายร้านอิ่มเพลิน 

เดินเข้าไปในร้าน มีที่นั่งให้เลือก3บรรยากาศ คือด้านหน้าริมน้ำ ตรงกลางในอาคาร และด้านหลังริมสวน

ด้านในอาคารเป็นโตีะนั่งกินแบบ นั่งพื้นใครหัวเข่าไม่ดี ไปนั่งโต๊ะด้านนอกได้ แต่สำหรับคนชอบบรรยากาศ จุดนี้น่านั่งจริงๆ

ริมน้ำ ก็ชิวไปอีกแบบ วันนี้ฝนพร่ำ เลยนั่งกันไม่ได้ 



มองผ่านหน้าต่างเข้าไป บรรยากาศดีมาก




อาหารแนะนำจากอิ่มเพลิน จานนี้ชื่อ "กุ้งขย่มถั่วพู"

อีจากเป็นของหวานแนะนำ "ว่านหางจรเข้" อร่อยมาก 



มาสวนผึ้งแนะนำร้านอิ่มเพลิน นั่งเพลิน อิ่มและอร่อยมาก




ร้านอิ่มเพลิน (Im Plern)
Tel: 081-9424460
ที่ตั้งของร้าน : 57 ม.8 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180
www.imPlern.com
http://www.facebook.com/pages/อิ่มเพลิน-สวนผึ้ง/195946220479510
E-mail: aung_implarn@hotmail.com


แผนที่ ที่ตั้งร้านอิ่มเพลิน

ดู ร้านอิ่มเพลิน ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า

อัพเดทข่าวท่องเที่ยวรอบวัน 23 สิงหาคม2555


เรามาสรุปประเด็นข่าวท่องเที่ยวน่าสนใจในรอบวัน(วันที่22 สิงหาคม2555) กันก่อนนอน นี้ก็ปาเข้าไปตี3แล้ว(23ส.ค.) ผมก็พยายามมองๆข่าวท่องเที่ยวอยู่ว่ามีอะไรมาอัพเดทกันบ้าง ซึ่งดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรมากนัก จะมีข่าวที่ต่อเนื่องเรื่องการขึ้นค่าเข้าอุทยานอยู่บ้าง แต่ประเด็นที่อยากจะมาอัพเดทกันเพื่อไม่ให้ตกเทรนด์คือ 2เรื่องครับ ข่าวที่ไอซีทีและกรทรวงการท่องเที่ยวฯลงนามร่วมมือติดตั้ง ฟรี wifi ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ถูกใจคนออนไลน์อย่างพวกผมมาก และอีกข่าวที่มีมาตั้งแต่วันก่อนแล้วครับ ถึงการเปลี่ยนมือตระกูลมาลีนนท์เข้าซื้อกิจการปาลิโอเขาใหญ่ เห็นอย่างนี้แล้ว การท่องเที่ยวเราคงจะมีอะไรสนุกๆขึ้นมาอีกเยอะเลย


ไอซีทีและกระทรวงท่องเที่ยวฯจับมือติดตั้งไวไฟฟรี (free Wifi) ในแหล่งท่องเที่ยว เริ่มที่ถนนข้าวสาร และจะขยายไปให้ครบในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของประเทศ เพื่อรองรับนโยบาย สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ใน5ปี

ที่มา http://www.dailynews.co.th/businesss/150950



อีกข่าวเกี่ยวกับ การเข้าซื้อกิจการ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างปาลิโอ เขาใหญ่ โดยผู้ซื้อมิใช่ใครแต่เป็นตระกูลมาลีนนท์ (ช่อง3) นี้เอง ด้วย ไม่ใช่แค่ปาลิโอ แต่ซื้อในส่วนของกิจการ"โรงแรมจุลดิศ"ด้วย ในวงเงิน 344ล้านบาท และจะตกแต่งใหม่ให้กับโรงแรมเพื่อให้มีดีไซน์ที่สดคลองกับปาลิโอ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “บาลิออส (Balios)”



ที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1345427153&grpid=02&catid=02

แค่สองข่าวนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยแล้วครับกับวงการท่องเที่ยว

แดนไดโนเสาร์ “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” ค้นหาและค้นพบโลกดึกดำบรรพ์


ใครสนใจเรื่องไดโนเสาร์ ต้องมาที่นี่ “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” เป็นสถานที่รวบรวม และจัดแสดงฟอสซิลที่ค้นพบ จากแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว และ ซากดึกดำบรรพ์ไดโนเสาร์ซึ่งมีมากถึง 7 ตัว (700 ชิ้น) และ ภายในยังมีนิทรรศการด้านธรณีวิทยา ที่จัดไว้ได้อย่างน่าสนใจมาก 

พูดถึงไดโนเสาร์แล้ว มันมีทั้งมุมน่ารัก น่าค้นหา ความลึกลับ และความน่ากลัวอยู่ด้วย เป็นที่ถูกใจของเหล่าบรรดาเด็กๆเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้ามีโอกาสมาเยี่ยมชมที่ “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” แล้วล่ะก็ ไม่ผิดหวังแน่ เพราะเราจะได้เห็น ซากกระดูกไดโนเสาร์ชิ้นใหญ่ ต่อเป็นรูปร่างไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริง ว่ามันตัวโตแค่ไหน เห็นแค่โครงสร้างมันก็ตื่นเต้นแล้ว เพิ่มจินตนาการให้เราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเจ้าไดโนเสาร์มากกว่าการอ่านแค่ในหนังสือจริงๆ 

ที่พิิพิธภัณฑ์สิรินธร นี้ มีข้อห้ามอยู่หลายอย่างพอสมควร เช่น ห้ามถ่่่่ายวีดีโอ (แต่เราขออนุญาติเค้าเป็นกรณีพิเศษเพื่อเก็บภาพมาให้เพื่อนชม ไม่ได้แอบถ่ายนะครับ) ห้ามสวมแว่นตาดำ ห้ามใส่หมวก ห้ามตัวเปียกชื้น   

นอกจากในตัวพิพิธภัณฑ์แล้ว ก็มีหลุ่มขุดค้นที่อยู่ด้านบนเขาด้วย ในจุดนี้เราจะได้เห็น พื้นที่จริงในการขุดค้นหาซากโครงกระดูกไดโนเสาร์ ว่าเขาทำกันอย่างไร และในช่วงที่ค้นพบนั้น ค้นพบอะไรกันบ้าง  สำหรับที่นี่แล้วเป็นที่ที่เด็กๆ และผู้ใหญ่หัวใจเด็กอย่างเราชอบมากเลย เห็นเด็กๆ หลายคน ไม่ยอมกลับ พ่อ แม่ ต้องมาอุ้มกลับไป  

วันที่เราเดินทางตรงกับวันแม่พอดี เลยเป็นการเที่ยววันแม่ตามใจลูกละกันเนอะ เห็นเด็กๆ ที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก เค้าสนุกสนานกับการเปิดดูรูปไดโนเสาร์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทางพิพิธภัณฑ์ จัดเตรียมไว้หลายเครื่องก็สนุกไปด้วยเลย 

พิิพิธภัณฑ์สิรินธร 

พิิพิธภัณฑ์สิรินธร 

เด็กๆกำลังค้นหาไดโนเสาร์ในเครื่องคอมพิวเตอร์

โครงกระดูกไดโนเสาร์ที่พิิพิธภัณฑ์สิรินธร 

โครงกระดูกไดโนเสาร์ที่พิิพิธภัณฑ์สิรินธร

โครงกระดูกไดโนเสาร์ที่พิิพิธภัณฑ์สิรินธร


หลุมขุดค้นที่ พิิพิธภัณฑ์สิรินธร


สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
โทร. ๐๔๓-๘๗๑-๐๑๔, ๐๔๓-๘๗๑-๓๙๔ โทรสาร. ๐๔๓-๘๗๑-๐๑๔

ที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์สิรินธร ตั้งอยู่ ณ ภูกุ้มข้าว  อ.สหัสขันธ์  จ.กาฬสินธุ์  
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. 


แผนที่พิิพิธภัณฑ์สิรินธร

เจดีย์วัดป่ากุง “บรมพุทโธเมืองไทย” จำลองความยิ่งใหญ่ของมรดกโลกชาวพุทธมาไว้ในเมืองไทย


มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายจากทั่วโลก ที่เราได้เห็นความสวยงาม แล้วถูกนำมาจำลองไว้ที่เมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นการจำลองเมืองท่องเที่ยวชื่อดังอย่างซานโตรินี มาไว้ที่ชะอำ ความสวยงามแบบเมดิเตอเรเนียนที่สวนผึ้ง ทุ่งหญ้าเลี้ยงแกะแบบสวีส ปาลิโอที่จำลองอิตาลี มรดกโลกอย่างโมอาย ก็มีร้านกาแฟนำมาใช้เป็นจุดเด่น ไร่องุ่นแบบฝรั่งเศสที่วังน้ำเขียว และที่นี่คงเป็นอีกแห่งที่จำลองความยิ่งใหญ่จากมรดกโลกมาไว้ในเมืองไทยได้สวยงามมาก เจดีย์วัดป่ากุง “บรมพุทโธเมืองไทย”

พระเจดีย์ทราย ที่วัดป่ากุง หรือวัดประชาคมวนาราม อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ที่วัดนี้โดดเด่นด้วยเจดีย์ที่ สร้างขึ้นมาโดยการจำลองมาจากเจดีย์บูโรบูโด(บรมพุทโธ) ซึ่งเป็นมรดกโลก ที่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย 

เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้น โดยบรรดาศิษยานุศิษย์ ของหลวงปู่ศรี พระเกจิชื่อดังแห่งภาคอีสาน ร่วมกันก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 90 ปี พรรษา 60 พระเทพวิสุทธิมงคล “หลวงปู่ศรี มหาวีโร” 

สร้างเป็นเจดีย์รูปทรงแปดเหลี่ยม กว้าง 101 เมตร ยาว101 เมตร สังเกตุความกว้างและความยาวของ เจดีย์แห่งนี้ จะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส และที่เป็นเลข101 ก็มาจากชื่อจังหวัดร้อยเอ็ดนั้นเอง ส่วนความสูง 109 เมตร และแบ่งเป็น7 ชั้น ตบแต่งด้วยหินทรายธรรมชาติ จากปากช่อง นครราชสีมา









ใครไม่รู้จัก มรดกโลก “บรมพุทโธ” หรือ “บุโรพุทโธ” เรามาทำความรู้จักกันสักนิด ว่ามีความน่าสนใจยังไงจึงได้มีการนำมาจำลองไว้ ที่ร้อยเอ็ด 

มหาสถูปบุโรพุทโธ หรือ บรมพุทโธ เป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ถ้าไม่นับนครวัดของกัมพูชาซึ่งเป็นทั้งศาสสถานของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและศาสนาพุทธ บุโรพุทโธจะเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปีพ.ศ. 2534 

บุโรพุทโธถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร เป็นสถูปแบบมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือ พุทธศักราช 1393 ตั้งอยู่ทางภาคกลางของเกาะชวา บนที่ราบเกฑุ ทางฝั่งขวาใกล้กับแม่น้ำโปรโก ห่างจากยอกยาการ์ตา ทางตะวันตกเฉียงเหนือ 40 กิโลเมตร บุโรพุทโธสร้างด้วยหินภูเขาไฟประมาณ 2 ล้านตารางฟุตบนฐานสี่เหลี่ยม กว้งด้านละ 121 เมตร สูง 403 ฟุต เป็นรูปทรงแบบปิรามิด มีลานเป็นชั้งลดหลั่นกัน 8 ชั้น และใน 8 ชั้นนั้น 5 ชั้นล่างเป็นลาน 4 เหลี่ยม 3 ชั้นบนเป็นลานวงกลม และบนลานกลมชั้งสูงสุดมีพระสถูปตั้งสูงขึ้นไปอีก 31.5 เมตร เป็นมหาสถูปที่ระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นกันไป


ที่ตั้ง บรมพุทโธเมืองไทย หรือพระเจดีย์หินทรายวัดป่ากุง  ตั้งอยู่ที่ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด

การเดินทาง
สำหรับเจดีย์หินนี้ ตั้งอยู่ที่วัดป่ากุง อยู่ห่างจาก ตัวเมืองร้อยเอ็ดไปตามถนนสายร้อยเอ็ด-วาปีปทุม 20 กิโลเมตร เส้นทางจากตัวเมืองร้อยเอ็ด ตรงมาทางที่จะไปวาปีปทุม ประมาณ 7 -8 กม.  เลยสถานีใบยาไทรงาม 2 (ขวามือ) จะมีทางเข้าไป ประมาณ 2 กิโลเมตร

แผนที่ เจดีย์วัดป่ากุง “บรมพุทโธเมืองไทย” 

ดู ไม่มีชื่อ ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า>

Wednesday, August 22, 2012

ชวนเที่ยวงาน”เทศกาลความสัมพันธ์อยุธยา ฝรั่งเศส” 24-26 สิงหาคม 2555


ชวนไปเที่ยวงาน”เทศกาลความสัมพันธ์อยุธยา ฝรั่งเศส” ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่24-26 สิงหาคม 2555 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัด(หลังเก่า) จ.พระนครศรีอยุธยา


งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่ไทยและฝรั่งเศส มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาถึง 327 ปี ซึ่งในงานจะมีนิทรรศการบอกเล่าประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ของพระนครศรีอยุธยา กับฝรั่งเศส พร้อมการแสดงพิเศษจากประเทศฝรั่งเศส ทั้งมูแลงรูจ และลิเกฝรั่งเศส

นอกจากนี้ยังจำลองบรรยากาศประเทศฝรั่งเศส มาไว้กลางเมืองพระนครศรีอยุธยา และเป็นครั้งแรกที่จะมีหิมะตกหน้าศาลากลางหลังเก่า  ผสมผสานกับความเป็นไทยในแบบของกรุงศรีอยุธยา การแสดงลิโด้โชว์ และมูแลงรูจจากนักแสดงระดับโลก

การออกร้านค้าอาหารจากฝรังเศส การแสดงคอนเสิร์ตโดยกุ้งสุธิราช การแสดงลำตัดโปงลาง และลิเกรวมดารา นำโดยดวงแก้วลูกท่าเรือ  ซึ่งสถานที่จัดงาน ไม่ใช่แค่สะท้อนภาพเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีมาอย่างยาว


ใครอยากไปเที่ยวฝรั่งเศส ...สุดสัปดาห์นี้ ไปเที่ยวดูหน่อยมั๊ย


สรุปข่าวท่องเที่ยว น่าสนใจวันที่ 21 สิงหาคม 2555 สนามF1ที่เชียงใหม่ ขึ้นค่าเข้าอุทยานฯ ทำไมททท.ต้องดูแลศูนย์ประชุมเชียงใหม่ ฯลฯ


มีหลายๆข่าวท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในรอบวัน อ่านแล้วก็มาคิดได้ว่า นะลองมาสรุปข่าวรอบวันกันหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีที่ไหนอัพเดทกันอย่างไร จากหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ทั้งงานแถลงข่าวแล้วก็ข่าวท้องถิ่นต่างๆ ที่พอจะรวบรวมมาได้ ...ข่าวที่จะมาสรุปรอบนี้ เฉพาะที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 สิงหาคม 2555 เท่านั้นนะครับ ถ้าช่วงไหนมีข่าวน่าสนใจเพิ่มเติมคงได้มาสรุปใจความเพิ่มเติมกัน 


ข่าวแรกที่เห็นว่ามีความน่าสนใจคือ การแถลงข่าวการจัดงานที่จังหวัดภูเก็ตเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทยเรา ชื่องาน “การแข่งขันโต้คลื่นนานาชาติ ครั้งที่ 4 Quiksilver Open Phuket” งานนี้จะมีขึ้นในวันที่ 12-15 กันยายน 2555 ที่จะถึงนี้ครับ ใครชอบกีฬาทางทะเลแบบนี้ ไม่น่าพลาด ไปชมได้ที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต

อีกข่าวถัดมา คือเรื่องของการที่ททท.ออกมาปลื้มกับสถิติของคนที่เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ เที่ยววันธรรมดา ซึ่งเป็นแคมเปญใหม่ พึ่งส่งออกมาช่วงหน้าฝนนี้เพียงไม่กี่วันก็สามารถสร้างการรับรู้ไปมากกว่า 100,000 ครั้งแล้ว ความน่าสนใจของเว็บนี้ก็คือ แพคเกจลดราคา จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยตรง จากทั่วทุกภูมิภาค หลายแห่งลดมากกว่า 50%  ซึ่งหน้าฝนแบบนี้ ก็จะออกมาลดราคากันอยู่แล้ว ราคายิ่งพิเศษอีกเมื่อมาเที่ยววันธรรมดา ใครสนใจเข้าไปหาแพคเกจ ส่วนลดต่างๆในวันธรรมดาได้ที่ เวปไซด์ www.tourismthailand.org/weekday


ไปที่เชียงใหม่กันบ้าง ที่เชียงใหม่นี้เรามีสองข่าวเลยครับ กับข่าวที่เกี่ยวกับศูนย์การประชุมเชียงใหม่ ที่เพิ่งสร้างเสร็จไปไม่นานประมาณปีที่ผ่านมา และอีกข่าวที่เชียงใหม่ เรื่องสนามแข่งรถ F1 

ข่าวแรก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ผาดหัวได้ น่าสนใจทำเอาหันควับไปอ่่านกันเลย ว่า “เติ้ง” ว้ากใส่ “ททท.” ไม่รับบริหารศูนย์ฯ เชียงใหม่ ที่ผมสนใจก็คือ ทำไมบรรหารถึงไม่พอใจ ไปดูรายละเอียดข่าว มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการบริหารศูนย์ประชุมเชียงใหม่ขึ้น โดยนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายรัฐมนตรีและ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่28 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการจัดตั้งนี้ เนื้อข่าวระบุว่า ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯนั้นมอบหมายให้ ททท.ดูแลศูนย์ แต่ทางททท.แจ้งว่าไม่มีบุคคลากรเพียงพอจะดูแลได้ จึงเป็นที่มาของการเข้ามาจัดตั้งคณะกรรมการ แต่ประโยค ทิ้งท้ายของ ท่านบรรหาร ดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยในการแต่งตั้ง เพราะมองว่าทางททท.ได้รับมอบหมายจากกระทรวงแล้ว ก็ควรจะดูแล ไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ ..ในข้อนี้ แปลกใจนิดหน่อยตรงที่ทำไมถึงมอบหมายททท.ซึ่งมีหน้าที่หลักในการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว ต่ได้รับมอบหมายให้ดูแลบริหารจัดการศูนย์ แทนที่จะเป็น จังหวัดเชียงใหม่ (ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด) แต่ก็เป็นเรื่องภายในกระทรวง นักข่าวอย่างผมคงได้แต่แปลกใจเล็กน้อย 



ใครสนใจข่าวนี้ลองไปอ่านกันได้ที่ http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9550000102421


อีกข่าวนึงเรายังอยู่กันที่เชียงใหม่ เพราะมีข่าวว่าทางกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กำลังมองหาสถานที่ทำสนามแข่งรถ F1 ซึ่งอาจจะเป็นที่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลความเหมาะสม ...เห็นอย่างนี้แล้ว ไม่แน่ว่า เราจะได้มีสนามแข่งรถF1 ที่เชียงใหม่เป็นแน่ เพราะทางรัฐบาลจัดสรรงบประมาณไว้ถึง 5,000 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่แน่ เพราะว่าข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการบอกว่า สถานที่อาจจะเล็กเกินไป แต่ก็มองพื้นที่อื่นๆในเชียงใหม่ไว้ด้วย แต่ชาวเชียงใหม่อย่าพึ่งดีใจ งานนี้ ยังมีพื้นที่สำรองไว้อีก 2จังหวัด คือที่ พัทยา จ.ชลบุรี กับ จ.นครราชสีมา ไม่รู้ใครจะได้สนามนี้ไปกันนะ ตามเนื้อข่าวแจ้งว่าคงใช้เวลารวบรวมข้อมูลประมาณ 2เดือน ก่อนจะเสนอคณะรัฐมนตรี 

สนใจไปอ่านข่าวได้ที่ http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000102960
และ ที่เดลินิวส์  http://www.dailynews.co.th/thailand/150729


และปลายเดือนนี้ครับ PATA จะจัดฟอรั่มใหญ่ ด้านการท่องเที่ยว Asia Pacific Digital Travel Forum ขึ้นที่กรุงเทพฯ ที่น่าสนใจคือ จะเป็นการประชุมที่มีประเด็นด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาพูดคุย เพื่อพัฒนาวงการท่องเที่ยวรับมือ AEC ที่กำลังจะเปิดในอนาคต การประชุมนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2555 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯใครสนใจ ลองอ่าน http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413365175



และที่มาแรงมากอีกข่าวคือการปรับขึ้นค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ ที่จะเริ่ม 1ตุลาคมนี้ จาก 40บาท เป็น 100 บาท ที่พาดหัวข่าวกันแทบทุกสำนักบอกว่า ปรับขึ้น 33 แห่่งทั่วประเทศ แต่อยากให้อ่านในเนื้อข่าวกันสักนิด ที่ปรับขึ้นมาเป็น100 บาทนั้นมีเพียง 29 แห่งเท่านั้น อีก 4แห่งคืออุทยานฯที่กำลังจะเปิดใหม่ ...การขึ้นครั้งนี้เล่นเอาวงการท่องเที่ยวสะเทือน เพราะมีเสียงจากเอกชน และนักท่องเที่ยวพอสมควรที่ออกมาบ่นว่าแพงเกินไป และขึ้นพรวดเดียวสูงไปหน่อย ไม่เหมาะสมกับบริการบ้าง หรือบางรายเห็นด้วยแต่ก็ขอให้ปรับปรุงอุทยานบ้าง 

...แต่มีความเห็นหนึ่งผมอ่านเจอในพันทิพย์ น่าสนใจมาก เค้าให้เหตุผลในการแสดงความไม่เห็นด้วยว่า ...คนไทยทุกคนเสียภาษีให้รัฐบาลอยู่แล้ว และภาษีเหล่านี้ก็ถูกจัดสรรให้กับอุทยานฯอยู่แล้ว ทำไมต้องมาเก็บเพิ่มจากนักท่องเที่ยวอีก ในเมื่อเราเป็นคนไทย ควรจะมีส่วนในการที่ได้ภาคภูมิใจในสมบัติของชาติ ไม่ใช่เฉพาะคนที่มีเงินถึงจะให้เข้าไปเที่ยวเท่านั้น 

...อันนี้ผมเห็นด้วยเลย ถ้าอุทยานฯหรือกระทรวงจะอ้างว่าที่ต้องขึ้นเพราะค่าใช้จ่ายการดูแลสูง ควรเรียกงบเพิ่มเติมจากรัฐบาลไม่ใช่ประชาชน ทำไมเราต้องจ่ายให้อุทยานจนมีกำไรจากทรัพยากรของเราเอง มันควรเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน พึงมีพึงได้ ...ก็เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ใครสนจก็ไปตามอ่านข่าวกันได้ มีลงกันทุกสำนักข่าวนี้ ทั้งหนังสือพิมพ์และสื่อท่องเที่ยว  


ก็เท่านี้ก่อนนะครับ กับข่าวท่องเที่ยวรอบวัน นี้แค่วันเดียวมีข่าวกระแทกใจหลายข่าวเลย เดียวพรุ่งนี้จะตามดูอีกที่ ถ้าไม่มีอะไรมาก เดี๋ยวสุดสัปดาห์ผมมาสรุปข่าวกันอีกที 

สะดุดตาดอทคอม (sadoodta.com)

Tuesday, August 21, 2012

รายชื่ออุทยานแห่งชาติ ที่ขึ้นค่าเข้าอุทยานฯ 1ตุลาคม 2555 นี้มีที่ไหนมาบ้าง

จากเดิมที่ ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติสำหรับคนไทยเสียกันที่40บาท ตุลานี้ (2555) เป็นต้นไปจะมี อุทยานฯสำคัญๆใหญ่ๆ จะปรับขึ้น จาก40บาท เป็น 100 บาท ขึ้นพรวดเดียว เป็น100เลย เป็นการขึ้นที่ไม่ธรรมดาครับ ฉะนั้น ไม่ว่าท่านจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือ บริษัททัวร์ หรือพาเพืิ่อนๆเที่ยวกรุณาวางแผนค่าใช้จ่ายเพิ่มได้เลยจร้า

อย่างผมมีแผนจะขึ้นภูกระดึง ปลายพฤศจิกายน 2555 นี้ ก็ต้องเตรียมกับค่าใช้จ่ายใหม่ทั้งหมดของอุทยานภูกระดึงกันเลย เพราะมีข่าวที่จะปรับขึ้นค่าลูกหาบ ที่จากเดิม กิโลล่ะ 15บาท เป็น 30บาท แล้วนั้น ตอนนี้มีการอนุมัติ ให้ขึ้นค่าเข้าอุทยานเป็น100บาทสำหรับคนไทยแล้ว ...ก็ขึ้นมามิใช่น้อย

จากเดิมอัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ ราคา 40 บาท เด็ก 20 บาท ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าฟรี  ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท

1ตุลาคมนี้ จะปรับเป็น


ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 300 บาท



การปรับครั้งนี้ก็เป็นการปรับแค่บ้างอุทยานเท่านั้นนะครับ คือจะปรับเฉพาะอุทยานฯที่มีผู้ให้ความิยมเยอะๆเท่านั้น เห็นว่าทางอุทยานฯรอดูฟีดแบคด้วย ว่าประชาชนจะเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน 

เพราะการปรับครั้งนี้ ให้เหตุผลสำหรับภาระการจัดการค่าใช้จ่าย ด้านการดูแลอุทยานฯ การบริการ และกิจกรรมต่างๆที่ มีในอุทยานฯ ซึ่งปัจจุบันมีภาระที่สูงขึ้นมาก เราก็หวังว่าทุกอย่างในอุทยานฯจะดีขึ้น มีอะไรให้เที่ยวจริงๆ ไม่ใช่ไปเที่ยวจ่ายเงินแล้วมีปัญหาอย่างที่ผ่านมา ว่าจ่าย 40 แต่ไม่ได้เที่ยวเลยก็หลายอุทยานฯ ...



สำหรับอุทยานแห่งชาติ จำนวน  33 แห่ง ที่มีการปรับอัตราค่าบริการใหม่ ประกอบด้วย ภาคเหนือ 8 แห่ง ได้แก่ 
  1. อุทยานแห่งชาติ แจ้ซ้อน จ.ลำปาง 
  2. อุทยานแห่งชาติ ผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่ 
  3. อุทยานแห่งชาติ สุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ 
  4. อุทยานแห่งชาติ อินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 
  5. อุทยานแห่งชาติ  ทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ 
  6. อุทยานแห่งชาติ น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ 
  7. อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก เลย 
  8. อุทยานแห่งชาติ ห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่ 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ 
  1. อุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 
  2. อุทยานแห่งชาติ ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี 
  3. อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง จ.เลย
  4. อุทยานแห่งชาติ ภูเรือ จ.เลย

ภาคตะวันออก  ได้แก่ 
13.อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด 
14.อุทยานแห่งชาติ น้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี 
15.อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะช้าง จ.ตราด ภาคตะวันตก 
16.อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 
17.อุทยานแห่งชาติ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี 
18.อุทยานแห่งชาติ ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 
19.อุทยานแห่งชาติ เอราวัณ จ.กาญจนบุรี  

ภาคใต้ ได้แก่ 
20.อุทยานแห่งชาติ เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี 
21.อุทยานแห่งชาติ ตะรุเตา จ.สตูล 
22.อุทยานแห่งชาติ ธารโบกขรณี จ.กระบี่ 
23.อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ 
24.อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา 
25.อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา 
26.อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี 
27.อุทยานแห่งชาติ หาดเจ้าไหม จ.ตรัง 
28. อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ จ.กระบี่ 
29.อุทยานแห่งชาติ อ่าวพังงา จ.พังงา

และในปีนี้ มีอุทยานแห่งชาติ ประกาศจัดตั้งขึ้นใหม่ 4 แห่ง ซึ่งจะคิดอัตราค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท  ได้แก่
  1. อุทยานแห่งชาติ ขุนขาน จ.เชียงใหม่ 
  2. อุทยานแห่งชาติ เข้าค้อ จ.เพชรบูรณ์ 
  3. อุทยานแห่งชาติ ดอยภูนาง จ.พะเยา  
  4. อุทยานแห่งชาติ  เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จ.ราชบุรี 


โดยอัตราค่าเข้าอุทยานราคาใหม่นี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2555 เป็นต้นไป 

Friday, August 17, 2012

คุ้มราคามาก Villa Moreeda รีสอร์ทโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติสุดพิเศษ

พาไปชมรีสอร์ทที่มาแรงมากในสวนผึ้งอีกสักแห่ง นั้นคือ รีสอร์ท "วิลล่าโมรีดา" เป็นรีสอร์ทที่เจ้าของเป็นเซเลปดาราชื่อดัง คุณ "เสนาลิง" หรือคุณ สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ นั้นเอง ที่บอกว่ากำลังฮิตมากในสวนผึ้งก็เพราะมีคนเข้ามาหาข้อมูลของรีสอร์ทแห่งนี้เยอะเลยนะสิครับ แม้ว่ารีสอร์ทจะเพิ่งเปิดไม่นาน แต่ก็อยู่ในกระแสตอบรับที่ดีมาก มีคนสนใจตลอดเวลา ด้วยดีไซน์ การออกแบบที่สะดุดตา

รีสอร์ทมีห้องอยู่ไม่มากนัก แต่ว่าทุกห้องมีการออกแบบที่ผมประทับใจมากทุกห้องเลยล่ะครับ ที่ชอบมากเป็นพิเศษคือการมาอยู่ที่นี่เหมือนการมาอยู่บ้าน ราคาที่จ่ายจะรวมทุกอย่างแล้ว อย่างเช่น มินิบาร์ ของกินเล่น ก็จะรวมอยู่ในราคาห้องพักกินได้เลย เขาจะมาเติมให้ตลอด wifi ก็มีให้

รีสอร์ทยังเป็นบรรยากาศติดริมน้ำด้วย สวยโรแมนติกมาก

มาดูที่ตัวห้อง แม้ว่าจะดูเรียบง่ายแต่การใช้เฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่ง ทำให้ทุกอย่างดูมีราคา และสวยงาม ประทับใจมากๆล่ะครับ ห้องนน้ำนี้ก็ใช้สุขภัณฑ์ที่ทันสมัยเลยล่ะครับ

...ลืมบอกไปว่าทำไมถึงได้ชื่อ วิลล่า โมรีดามา เป้นชื่อรีสอร์ท คุณเสนาลิง ตั้งชื่อนี้จากชื่อของภรรยาและลูกรวมกัน คือ คำว่า "โมรี"เป็นชื่อลูก และคำว่า "ดา" ชื่อภรรยา ถ้าสังเกตุที่โลโก้ใช้ตัวนกยูง เพราะว่า คำว่า "โมรี" มีความหมายถึงนกยูงด้วย ก็เป็นที่มาของชื่อเก๋ๆของรีสอร์ทนี้นะครับ

มาดูรูปของ Villa Moreeda (วิลล่าโมรีดา) กันดีกว่า

ห้องนี้ยกพื้นสูง แบ่งสัดส่วนออกเป็นสองส่วนด้านหนึ่งเป็นห้องนอน อีกด้านเป็นห้องนั่งเล่น มีห้องน้ำตรงกลาง เดี๋ยวเราขึ้นไปดูกัน

ยกพื้นลอยจากพื้น 

ห้องดูเก่ไก๋มาก ยกพื้น บนสนามหญ้าสีเขียว บรรยากาศร่มรื่น ไม่รู้สึกร้อนเลยครับ เพราะเต้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่

ฝั่งนี้เป็นห้องนั่งเล่น

มีตุ๊กตาลิง คงแสดงสัญลักษ์ไม่ให้ลืมกัน จากพี่เสนาลิงครับปม

มินิบาร์กินได้เลยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เพราะทางรีสอร์ทอยากให้ความรู็สึกเป็นกันเองไม่ต้องมาคิดเล็กคิดน้อย จ่ายหยุมหยิม

ห้องนอน ที่เน่นกระจกบานใหญ่ ทำให้เรามีความรู้สึกเหมือนอยู่กลางธรรมชาติจริงๆ

ห้องน้ำที่เรียบหรูดูดีมาก

การตกแต่งดูมีสง่าราศีจริงๆ

สุขภัณฑ์ทันสมัยอ่ะ น่าใช้ที่สุด

บรรยากาศในสวน

ห้องอีกType ที่เป็นห้องโล่งใหญ่มาก 

เน้นที่กระจกกว้างใหญ่เหมือนกัน ให้ความรู้สึกลอยฟ้ามากๆ

ดูมุมนี้สิ เหมือน่าจะนั่งอยู่ในธรรมชาติสีเขียว

ถ่ายจากระเบียงด้านนอก 

อ่างน้ำ มองเห็นเตียงนอนแบบนี้ โรแมนติกมั๊ย ..เขามีม่านกันนะจ๊ะ ถ้าอาย

วิลล่าโมรีดา (Villa Moreeda) ขอชอมว่าการตกแต่งสวยงามมาก และการดูแลก็ดีมากครับ เป็นการเองที่สุด ในรีสอร์ทยังมีมุมหนังสือ ให้นังเล่น หรือมุมริมน้ำ สำหรับคนรักธรรมชาติด้วยรื่นรมย์มาก 

ตอบได้เลยว่า คุ้มราคาครับ Villa Moreeda